Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wordpress-seo domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/web2.happenn.com/wp-includes/functions.php on line 6114
Event Marketing 101: โปรโมตอีเวนต์ยังไงให้คนสนใจและมาร่วมงาน
บล็อก
การตลาดงานอีเวนต์

การตลาดอีเวนต์ 101: โปรโมตอีเวนต์ยังไงให้คนสนใจและมาร่วมงาน

เขียนเมื่อ APR 25, 2023

สำหรับงานอีเวนต์แล้ว การทำการตลาดถือเป็นปัจจัยสำคัญมากในการประสบความสำเร็จ และก็เป็นงานที่ท้าทายมากๆ ในการจะทำออกมาให้ดีด้วย ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อในปัจจุบันมีตัวเลือกงานอีเวนต์ให้ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นจำนวนมาก ทีมงานเบื้องหลังในฐานะ Event Manager หรือ Planner เองก็จำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์ในการโปรโมตที่ดีด้วยถึงจะไปรอดได้

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในปารโปรโมตงานอีเวนต์แบบดั้งเดิมอย่างการติดโปสเตอร์ หรือสป็อตโฆษณาก็อาจเป็นทางเลือกที่ค่าใช้จ่ายสูงและมีข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย ในทางกลับกันช่องทางดิจิทัลอย่างโซเชียลมีเดีย หรือการทำการตลาดผ่านอีเมลเองก็เป็นงานที่ทั้งกินเวลาและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการทำเป็นอย่างมาก

บทความชิ้นนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีการทำ Event Marketing ที่น่าใช้ ได้ผล และสามารถช่วยให้คุณโปรโมตงานอีเวนต์เพื่อดึงคนให้มาร่วมงานได้มากขึ้นไปพร้อมๆ กันครับ

 

สารบัญ

สร้าง Brand Identity สำหรับอีเวนต์ของคุณให้แข็งแรง
สร้างเว็บไซต์สำหรับงานอีเวนต์ ที่ทำได้ทั้งให้รายละเอียดและอำนวยความสะดวก
ใช้ Email Marketing ในการสื่อสารกับผู้ร่วมงาน
ใช้โซเชียลช่วยกระตุ้นการรับรู้
ใช้สปอนเซอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ให้เกิดประโยชน์
นำระบบลงทะเบียนและจำหน่ายบัตรมาใช้เพื่อความลื่นไหลในการจัดการ
สร้างคอนเทนต์เพิ่ม Engagement ป้อนกลุ่มผู้ร่วมงาน
ทำแคมเปญยิงโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายตรงๆ
ฟังเสียงตอบรับจากผู้ร่วมงานเพื่อนำมาปรับปรุงงานครั้งต่อไป
ใช้ Data ในมือเพื่อส่งปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์ให้เหมาะกับผู้ร่วมงาน
บทสรุป

 

สร้าง Brand Identity สำหรับอีเวนต์ของคุณให้แข็งแรง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการทำ Event Marketing คือการสร้างแบรนดิ้งของงานให้มีความแข็งแรงในตัวมันเอง เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้งานอีเวนต์ของคุณมีความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ที่ทำอีเวนต์ออกมาใกล้เคียงกัน และช่วยกระตุ้นความอยากมางาน ความตื่นเต้น และดึงให้คนมาร่วมงานของคุณมากขึ้นได้ เรามีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการสร้างแบรนด์สำหรับงานอีเวนต์มาแนะนำดังนี้ครับ

เรื่องแรกคือการหาเอกลักษณ์ในงานอีเวนต์ของคุณที่แตกต่างจากคนอื่นให้เจอ รวมถึงกำหนดกลุ่มเป้าหมายของงานให้ชัดเจน ตอบคำถามให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้งานของคุณแตกต่างจากงานอื่นๆ และผู้ร่วมงานที่อยากให้มาให้คุณค่ากับเรื่องอะไรเป็นหลัก ข้อมูลตรงนี้จะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้คุณวางกลยุทธ์ในการทำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น และช่วยให้คุณสร้าง Brand Identity หรือตัวตนของแบรนด์ให้ออกมาเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

สอง เลือกชื่องานและแท็กไลน์ที่สื่อสารถึงงานอีเวนต์ของคุณได้ดี ควรจะเป็นสิ่งที่จดจำได้ง่าย ออกเสียงได้ง่าย และสามารถสื่อสารกับว่าที่ผู้ร่วมงานได้ว่าพวกเขาจะได้พบกับอะไรในงานอีเวนต์ครั้งนี้บ้าง

สาม ผลิตงานด้านภาพ (Visual) ให้สามารถนำเสนอตัวตนของแบรนด์ออกมาได้ชัดเจน และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเรื่องนี้ประกอบไปด้วยหลายสิ่ง ทั้งโลโก้ สีหลักของงาน ไปจนถึงฟอนต์ ตัวอักษรต่างๆ ที่เป็นไปในทางเดียวกันกับข้อความที่งานสื่อสารออกไป และต้องทำออกมาให้ตรงจริตกับผู้ร่วมงานของคุณด้วย

อย่าลืมว่าการทำ Brand Identity ให้แข็งแรงเป็นงานที่ต้องค่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ รีบไม่ได้ แต่การลงทุนกับการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาจะช่วยให้คุณสามารถทำงานอีเวนต์ให้ออกมาเป็นที่น่าจดจำ และมีอิมแพ็กต์กับผู้ร่วมงานจนอยากกลับมาร่วมซ้ำในครั้งต่อไปได้ครับ

 

event marketing

 

สร้างเว็บไซต์สำหรับงานอีเวนต์ ที่ทำได้ทั้งให้รายละเอียดและอำนวยความสะดวก

การทำเว็บไซต์สำหรับงานอีเวนต์เป็นขั้นตอนที่ไม่ง่ายนักสำหรับงาน Event Marketing เพราะสิ่งนี้เป็นทั้งหน้าตาบนโลกออนไลน์ของคุณ เป็นพื้นที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับผู้ร่วมงาน รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายบัตร โพสต์ข่าวสารอัปเดต ฯลฯ อีกด้วย เว็บไซต์งานอีเวนต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีจะช่วยให้ผู้คนอยากมาร่วมงานของคุณมากขึ้นได้ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือกระจายข่าวสารหรือเชิญให้คนมาร่วมงานอีเวนต์นี้ด้วยก็ได้เช่นกันครับ

สิ่งที่ต้องพึงระลึกไว้ระหว่างการสร้างเว็บไซต์คือเรื่องของ ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (User Experience) ซึ่งควรจะทำออกมาให้ง่ายสำหรับผู้ร่วมงานเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลงานอีเวนต์ ราคาตั๋วเข้างาน สถานที่จัดงาน หรือข้อมูลคำถามที่พบบ่อยต่างๆ และนอกจากนี้ตัวเว็บก็ควรจะรองรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Friendly) เพราะสมัยนี้ผู้คนใช้งานอินเทอร์เน็ตกันผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลักแล้ว

และสุดท้ายอยากแนะนำให้ทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็นและดึงคนเข้าเว็บไซต์ให้มากขึ้นอีกทาง เว็บไซต์งานอีเวนต์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีจะช่วยให้คุณสามารถโปรโมตงานอีเวนต์ได้ง่าย และช่วยอำนวยความสะดวกผู้ร่วมงานในการลงทะเบียน ซื้อบัตร หรือสร้างปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น

 

ใช้ Email Marketing ในการสื่อสารกับผู้ร่วมงาน

Email Marketing นับว่าเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี ทั้งกับผู้ร่วมงานของคุณและกับคนที่ยังไม่ตัดสินใจ เพราะเครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้คุณอัปเดต แจ้งเตือน ปล่อยโปรโมชันหรือส่วนลดไปถึงพวกเขาได้โดยตรง และการจะใช้อีเมลให้เกิดผลลัพธ์อย่างเต็มที่ ก็สามารถทำได้ด้วยการจัดหมวดหมู่ของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะสื่อสารด้วย อาจแบ่งตามความสนใจ พฤติกรรม หรือ Demographic อย่างเพศ อายุ ฯลฯ วิธีนี้จะช่วยให้คุณทำแคมเปญที่ตอบโจทย์สำหรับแต่ละกลุ่มได้แม่นยำขึ้น และอาจทำให้พวกเขาตัดสินใจมาร่วมงานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

พยายามเขียนเนื้อหา Email Marketing ให้ชัดเจนและใช้ภาพที่ดึงดูดความสนใจ เขียนหัวข้อให้ดึงดูดสายตา ให้มีคำกระตุ้น (Call to Action) เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกคลิก และแน่นอนว่าเรื่องเวลาก็สำคัญไม่แพ้กัน พยายามอย่าส่งอีเมลบ่อยเกินไป เพราะการทำแบบนี้อาจทำให้คนตัดสินใจเลิกรับจดหมายข่าว (Unsubscribe) จากคุณได้ พยายามเลือกเวลาให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่ปล่อยออกไป จะเป็นผลดีกับทั้งตัวงานและแบรนด์มากกว่าครับ

การทำ Email Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ร่วมงานได้ดี และช่วยเพิ่ม Engagement ของงาน รวมถึงเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันครับ

 

ใช้โซเชียลช่วยกระตุ้นการรับรู้

โซเชียลมีเดียคือหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการโปรโมตงานอีเวนต์ให้เป็นที่รับทราบ ยิ่งคุณสามารถสร้างกระแสบนโซเชียลได้มาก คุณก็จะยิ่งกระตุ้นความอยากมาร่วมงานให้กับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณได้มากตามไปด้วย

เริ่มจากการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานมากที่สุดเป็นหลัก เมื่อเลือกได้แล้ว ให้คุณค่อยๆ พัฒนากลยุทธ์ในการเข้าถึงพวกเขาขึ้นมา พยายามสื่อสารด้วยภาพกราฟิกหรือวิดีโอที่ดึงดูดสายตา (Eye-catching) เพื่อเรียกความสนใจเข้ามาหางาน และพยายามกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายของคุณแชร์โพสต์ที่ปล่อยออกไป รวมถึงใช้แฮชแท็กที่ถูกต้องในการปล่อยเนื้อหาออกไปหากลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น

และต้องไม่ลืมที่จะคอยมอนิเตอร์บัญชีโซเชียลมีเดียอยู่เป็นระยะๆ ด้วยครับ ตอบกลับคอมเมนต์หรือคำถามต่างๆ ที่มีเข้ามาให้เร็ว เพราะด้วยการ Approach ที่ถูกจังหวะ การใช้โซเชียลก็ถือเป็นตัวพลิกเกมในการโปรโมตงานอีเวนต์หรือชวนคนมาร่วมงานได้ดีมากอีกทางครับ

 

ใช้สปอนเซอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ให้เกิดประโยชน์

อีกหนึ่งวิธีการเพิ่มการมองเห็น (Visibility) งานอีเวนต์ของคุณให้มากขึ้นก็คือการสร้างกลยุทธ์สำหรับใช้กับสปอนเซอร์งาน หรือเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ (Influencer) ขึ้นมา สปอนเซอร์งานอีเวนต์ของคุณสามารถช่วยได้ทั้งเรื่องการเงิน รวมไปถึงการทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำมากขึ้น ส่วนกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ก็จะช่วยในเรื่องของการกระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆ ออกไปหากลุ่มเป้าหมายที่กว้างยิ่งกว่าเดิม

การเลือกพาร์ทเนอร์ที่ใช่ควรพิจารณาจากความเกี่ยวข้อง ว่าไปกันได้กับตัวงานและกลุ่มเป้าหมายทีต้องการจะจับหรือไม่ พยายามเลือกพาร์ทเนอร์งานที่มีจุดยืนต่างๆ และเป้าหมายเดียวกันกับคุณ จุดนี้จะช่วยเสริมคุณค่าที่ไม่เหมือนใคร (Unique Value) ในสายตาผู้ร่วมงานได้ดีมาก ยกตัวอย่างเช่นหากงานอีเวนต์ของคุณพุ่งเป้าไปที่เรื่องสุขภาพหรือความเป็นอยู่ที่ดี สปอนเซอร์ของงานก็ควรจะเป็นแบรนด์ฟิตเนส หรือใช้อินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

 

event marketing

 

นำระบบลงทะเบียนและจำหน่ายบัตรมาใช้เพื่อความลื่นไหลในการจัดการ

ขั้นตอนการลงทะเบียนร่วมงานอีเวนต์หรือจำหน่ายบัตรเป็นงานที่ซับซ้อนและกินเวลาไม่ใช่น้อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม การนำซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับทำงานด้าน Event Management โดยเฉพาะก็จะช่วยให้คุณทำงานมากมายจบได้บนแฟลตฟอร์มตัวเดียว (ด้วยความปวดหัวที่น้อยลง) เทคโนโลยีประเภทนี้จะทำให้คุณสามารถจัดการข้อมูลผู้ร่วมงาน ส่งคำเชิญ แจ้งเตือน หรือชำระเงินได้ในที่เดียว

การใช้ซอฟต์แวร์ประเภทนี้จะทำให้การวางแผนงานอีเวนต์ของคุณสะดวกขึ้น และสามารถไปโฟกัสกับการทำให้ประสบการณ์การร่วมงานอีเวนต์ของผู้ร่วมงานของคุณออกมาดีกว่าเดิมด้วย

หากสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์การจัดการงานอีเวนต์ของเราเพิ่มเติมได้บนหน้าเว็บไซต์ครับ

 

สร้างคอนเทนต์เพิ่ม Engagement ป้อนกลุ่มผู้ร่วมงาน

การสร้างคอนเทนต์เพื่อดีงดูดผู้ร่วมงานไม่ใช่งานง่าย แต่คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการวางกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนก่อน แล้วจึงสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการตามมาในภายหลัง ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งรูปแบบของวิดีโอทีเซอร์ แนะนำ Speaker เด่นๆ ของงาน หรือโชว์ภาพเบื้องหลังการจัดงานต่างๆ (เป็นต้น)

ที่สำคัญคือคุณจะต้องมีเทคนิคในการเล่าเรื่อง (Storytelling) ที่ดี เพื่อกระตุ้นความอยากมาร่วมงานให้มากขึ้น อาจใช้วิธีการสร้างเนื้อหาในรูปแบบของ โพล หรือควิซเพื่อกระตุ้น Engagement หรือการแชร์ในหมู่ผู้ร่วมงานบนโลกออนไลน์ สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือความสม่ำเสมอของเนื้อหา (ทั้งด้านข้อความและภาพ) เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการร่วมงานในภายหลังด้วย

การสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์จะทำให้งานอีเวนต์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง ช่วยรักษาฐานผู้ร่วมงาน และช่วยให้เกิดการบอกต่อในแง่บวกไปพร้อมๆ กัน และนอกจากโซเชียลแล้วทางเราก็แนะนำให้ใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Email Marketing ในการช่วยป้อนคอนเทนต์ให้ถึงผู้คนในวงที่กว้างขึ้นด้วย และสุดท้ายอย่าลืมติดตามและวิเคราะห์ยอด Engagement ที่ได้มาเพื่อนำมาพัฒนาเนื้อหาของงานให้ตอบโจทย์ผู้ร่วมงานมากขึ้นในอนาคตด้วยนะครับ

 

อีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถเพิ่มยอดผู้ร่วมงานให้คุณได้แน่ๆ คือการทำแคมเปญโฆษณาหากลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าจะไม่ใช่การปล่อยโฆษณาออกไปหาใครก็ได้แบบไม่มีการวางแผน แต่เป็นการป้อนเนื้อหาไปสู่สายตาของคนที่มีแนวโน้มอยากมาร่วมงานมากกว่าจริงๆ ซึ่งสามารถทำออกมาได้หลายวิธี อาจเป็นโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย Google Ads หรือจะทำคอนเทนต์แบบ Sponsored (งานจ้าง) ผ่านเว็บไซต์หรือบล็อกที่กลุ่มเป้าหมายสนใจก็ได้เช่นกัน หากมีข้อมูลประเภท Demographic ความสนใจ ที่อยู่ ฯลฯ มาใช้ประกอบด้วยก็จะทำให้โฆษณาของคุณวิ่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

และเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องคอยติดตามและวิเคราะห์เป็นระยะๆ ว่า Performance ของตัวโฆษณาเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ปรับปรุงและควบคุมงบประมาณในการลงโฆษณาให้คุ้มที่สุด การวางแผนโฆษณาอย่างรอบคอบจะทำให้คุณได้ทั้งการมองเห็น การรับรู้เกี่ยวกับงานอีเวนต์ที่กำลังจะจัดได้มากขึ้น และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ถูกกลุ่มอย่างชัดเจนด้วยครับ

 

ฟังเสียงตอบรับจากผู้ร่วมงานเพื่อนำมาปรับปรุงงานครั้งต่อไป

การศึกษาสิ่งที่เคยทำไปแล้วในอดีตคืออีกขั้นตอนที่จะทำให้งานอีเวนต์ครั้งต่อไปของคุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณมีการวัดผลจากเสียงตอบรับของผู้ร่วมงาน ข้อมูลตรงนี้จะกลายมาเป็น Insight ที่มีค่าและต่อยอดเป็นการพัฒนากลยุทธ์สำหรับงานครั้งต่อไปได้ หนึ่งในวิธีเก็บฟีดแบ็กที่ได้ผลมากที่สุดคือการปล่อยแบบสอบถาม (Survey) ไปหาผู้ร่วมงานเพื่อถามความเห็นแบบตรงไปตรงมา วิธีนี้จะทำให้คุณเห็น Performance ของงานในหลายแง่มุม ทั้งยอดขายบัตร Engagement บนโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ด้วย เป็นต้น

การนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์จะช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดขึ้นว่าส่วนไหนในการทำงานที่จะต้องพัฒนาต่อ และเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยยึดฐานข้อมูลที่มีเป็นหลัก (Data-driven Decision) สำหรับงานครั้งต่อไปในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น หากมีการคอมเพลนเรื่องแถวเข้างานที่ยาวเหยียดอย่างต่อเนื่อง งานครั้งต่อไปอาจจะต้องมีระบบเช็กอินเข้างานแบบดิจิทัลเข้ามาช่วย หรือถ้าโพสต์บนโซเชียลมีเดียของคุณได้เอ็นเกจเมนต์ที่สูงกว่าการทำ Email Marketing คุณก็อาจจะปรับสัดส่วนความสำคัญของการสื่อสารมาลงตรงนี้แทนได้มากขึ้น

การเก็บข้อมูลเสียงตอบรับของงานอีเวนต์เป็นกระบวนการสำคัญในการพัฒนางานครั้งต่อไป ซึ่งปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่สามารถช่วยให้คุณทำงานตรงนี้ได้สะดวกขึ้น รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้คุณตัดสินใจสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้นหลายตัว พูดได้เลยว่าหากคุณมีเครื่องมือทำแบบสอบถามและกลยุทธ์ที่ถูกต้อง งานส่วน Event Marketing ของคุณจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น และการจะได้ผู้ร่วมงานเพิ่มขึ้นในปีถัดๆ ไปจะไม่เป็นเรื่องยากอีกเลยครับ

 

event marketing

 

ใช้ Data ในมือเพื่อส่งปรับแต่งประสบการณ์งานอีเวนต์ให้เหมาะกับผู้ร่วมงาน

หากคุณเป็น Event Planner การสร้างประสบการณ์งานอีเวนต์ที่ไม่เหมือนใคร และออกแบบอย่างเหมาะสมกับผู้ร่วมงานแต่ละกลุ่ม/คน (ที่เรียกกันว่าการ Personalize) คือหนึ่งในภารกิจหลักที่ปฏิเสธไม่ได้ และการทำความเข้าใจความต้องการและความชอบที่แตกต่างกันของผู้ร่วมงานก็เป็นส่วนที่ท้าทายมาก การนำดาต้าเหล่านี้ขึ้นมาใช้จะช่วยให้คุณค้นพบ Insight เกี่ยวกับพฤติกรรม ความใจ ความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมกับงาน ฯลฯ และทำให้คุณสามารถนำไป Personalize ประสบการณ์งานอีเวนต์ให้กับแต่ละคนได้

ข้อมูลในการทำงานส่วนนี้สามารถเก็บได้จากหลายแหล่ง ทั้งจากแบบฟอร์มการลงทะเบียน โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่แอปพลิเคชันของงานอีเวนต์นั้นๆ (ถ้ามี) ซึ่งข้อมูลตรงนี้คุณสามารถแบ่ง Segment กลุ่มเป้าหมายของงานและปรับแต่งวิธีการสื่อสารทางการตลาดให้เหมาะสมกับความสนใจและความชอบของแต่ละกลุ่มได้ รวมถึงยังสามารถใช้ดาต้าตรงนี้ในการเลือกแนะนำ Session ที่น่าสนใจในงาน คนที่เหมาะจะ Networking ด้วย หรือผู้จัดแสดงสินค้าที่ตรงกับความต้องการ เป็นต้น

เรื่อง Personalization ไม่ใช่แค่การยกระดับประสบการณ์การร่วมงานอีเวนต์ แต่สามารถต่อยอดไปถึงเรื่องของการเพิ่ม Engagement ความพึงพอใจ รวมไปถึง Loyalty ได้ด้วย ด้วยเครื่องมือและกลยุทธ์ที่ถูกต้อง คุณจะสามารถดึงพลังของ Event Data ออกมาได้อย่างเต็มที่ และทำให้งานอีเวนต์ของคุณทั้งอิมแพ็กต์และเป็นที่จดจำที่สุดได้อย่างไม่ยากเย็น

 

บทสรุป

โลกของการทำ Event Marketing มีแต่จะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือ การโปรโมตที่มีประสิทธิภาพสามารถชี้เป็นชี้ตายงานอีเวนต์ของคุณได้ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ข้อมูลที่ช่วยให้คุณสามารถต่อยอดงาน Event Marketing ของคุณได้

และถ้าคุณกำลังมองหาเครื่องมือในการช่วยโปรโมตหรือจัดการงานอีเวนต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทาง Happenn ของเราก็สามารถช่วยคุณในส่วนนี้ได้ ด้วยเครื่องมือหลายๆ อย่างที่เรามี ตั้งแต่ระบบลงทะเบียนร่วมงานไปจนถึงระบบทำแบบสอบถาม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา หรือติดต่อเราทาง hello@happenn.com หรือกกรอกแบบฟอร์มนัดประชุมปรึกษาเรื่องงานอีเวนต์กับเราได้ (ฟรี) คลิกที่นี่ได้เลยครับ